love pain เคราะห์รัก ซ้ำร้าย พิสูจน์หัวใจ ยังไงก็รักเธอ
การที่เธอได้รับอุบัติเหตุในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การที่เธอต้องไปนอนโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยของตังเองเพียงอย่างเดียว แต่นี่จะเป็นการพิสูจน์ความรักจริงที่ชายและหญิงมีต่อกันมานานแสนนาน
ผู้เข้าชมรวม
81
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทนำ
3:45 P.M.
“ เพอล์แปร วันนี้นายว่างไหม ”
ฉันทักผู้ชายตัวสูงที่กำลังยืนอยู่คนเดียวที่ใต้ต้นขี้เหล็กข้างโรงเรียน
เมื่อได้ยินเสียงฉันเรียก จากที่หันหลังให้ฉันอยู่เขาก็หันหน้ากลับมา แววตาสีดำเค็มที่น่าหลังไหลแต่ดูแปลกๆไปบวกกับผมสีดำเข็มซอยสไลที่เข้ากับรูปหน้าขาวเนียนยิ่งทำให้คนตรงหน้าฉันดูเป็นคนหล่อเข็มตามสเปกฉันทันตาเห็น
ดูท่าทางเคร่งเครียดจัง เกิดอะไรขึ้น _*_
“ ว่างสิ -_- ฉันว่าง ” สายตาที่มองมาบวกกับน้ำเสียงที่บ่งบอกอารมณ์ได้เป็นอย่างดี มันดูเปลี่ยนไป เมื่อก่อนเขาจะดูแสนดี แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปจริงๆ ฉันได้แต่มองหน้าเขาอย่างสงสัย ความรู้สึกในตอนนี้เริ่มที่จะไม่ไว้ใจ...
“นายเป็นอะไรไป _*_ ”ฉันตัดสินใจถามออกไปตรงๆ ถึงเราจะสนิทกันได้ไม่นานแต่ฉันก็ดูออก ว่านี่ไม่ใช่ท่าทางปกติที่เขาเคยเป็น เมื่อสามวันก่อน...
ตอนนั้นเขาชั่งแสนดี น่ารัก สายตาและท่าทางของเขาดูอ่อนโยนจนทำให้ฉันแทบจะเป็นบ้า ฉันหลงรักเขาเข้าแล้วหละ และดูท่าทางเขาก็คงจะมีใจให้ฉันเหมือนกัน =///=
“ไม่มีอะไร!” คำตอบสั้นๆที่เขาพูดออกมาจากปากดูเหมือนตอบเพื่อให้มันเสร็จๆไป ก่อนที่เขาจะถอนหายใจแล้วอ้าปากพูดต่อ “ดีแล้วหละ ที่เธอมาอยู่ตรงนี้พอดี ฉันมีเรื่องจะบอก”
ฉันเริ่มที่จะไม่แน่ใจแล้วล่ะ เขาดูเปลี่ยนไปเหลือเกิน และเหมือนเขากำลังจะบอกอะไรบางอย่างกับฉันด้วย ฉันใจไม่ดีเอาเสียเลย
“...” ฉันเงียบเพื่อรอฟังคำพูดของเขา
“เธอเลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว!”
“ฮะ...นายว่าไงนะ 0*0”
เขาถอนหายใจแล้วก็สูดหายใจเข้าแรงๆหนึ่งที่ “ฉันจะพูดให้ฟังชัดๆ แล้วเธอก็ควรจะตั้งใจฟังให้ดีๆด้วยนะ” เขามองหน้าฉันแวบนึ่งก็เบือนหน้าหนีไปทางอื่นเหมือนพยายามที่จะหลบสายตาแล้วก็พูดต่อ “ เลิก! ยุ่ง! กับ! ฉัน! -_-”
=0= ฉันมองเขาด้วยแววตาไม่เข้าใจ ฉันไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจงั้นหรอ ทำไมเขาถึงได้พูดจาทำร้ายจิตใจของฉันขนาดนี้ด้วย ทำไม T_T
“มันเกิดอะไรขึ้น นายตอบฉันสิ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”ฉันเข้าไปเขย่าแขนเขาแรงๆ พยายามที่จะสบนัยน์ตาสีดำสนิทที่เมื่อก่อนเขาเคยใช้มันมองฉันอย่างอ่อนโยน แต่ปฏิกิริยาที่เขาตอบสนองกลับมากลับกลายเป็นความเฉยชา เขาไม่แม้แต่จะมองหน้าฉัน นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่! “ตอบสิ...ทำไม...”
“เพราะฉัน...ฉันเกลียดเธอ”
“ ‘ [] ’ !! นะ...นายว่าไงนะ ” คำตอบที่หลุดออกมาจากปากของเขาทำให้ฉันจุก...เหมือนกับมีคนเอาอะไรหนักๆมาทุบลงที่ท้อง ฉันรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงผิดปกติ เนื้อตัวสั่น ฉันแทบพูดไม่ออก ตอนนี้ฉันไม่รู้จริงๆว่าควรทำยังไงในวินาทีต่อจากนี้...
คำพูดของเขายังคงวนเวียนอยู่ในหัวของฉันไปมา ‘ฉันเกลียดเธอ’ น้ำตาฉันค่อยๆรินไหลลงมาช้าๆ ด้วยความไม่เข้าใจ ฉันสับสน ถ้าเขาเกลียดฉันเขาจะมาทำดีกับฉันทำไม จะมาทำดีกับฉันทำไม!!!
“อย่าให้ฉันต้องพูดอีกเลย -_-” เขาพูดโดยไม่มองหน้าฉันเหมือนเดิม แล้วก็สลัดมือฉันออกจากแขนของเขาและเดินออกไปอย่างไม่คิดจะหันมามองทางฉันอีก
นายคงเกลียดฉันมากสินะ T_T
“เดี๋ยว!” ฉันตัดสินใจเรียกเขาเอาไว้ เขาหยุดเดินแต่ก็ไม่ได้หันมามอง “ฉันก็มีเรื่องจะบอกนายเหมือนกัน” ฉันกัดฟันพูดด้วยความอดทนและฉันก็เดินเข้าไปยืนประจันหน้ากับเขา แล้วเขาก็กำลังหันมาพอดี จังหวะนั้นแหละ...
เพี้ยะ!!
ฉันตบหน้าเขาเข้าเต็มแรง เต็มฝ่ามือของฉัน ในเมื่อเขากล้าบอกว่าเกลียดฉัน ฉันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำดีกับเขาอีกต่อไป
“ ฉัน! เกลียด! นาย!”
1
ยังรัก...
หนึ่งปีต่อจากนั้น
3:45 P.M.
“เจ็บไหมล่ะ ก็อย่างนี้แหละนะ แอบรักเพื่อน ต้องทำใจ”
ประโยคข้างบนไม่ได้ทำให้ฉันเจ็บเท่ากับภาพที่อยู่ตรงหน้า ภาพเหตุการณ์ตรงหน้าทำให้ฉันถึงกับพูดไม่ออก ได้แต่ยืนมองด้วยความอดทนเก็บความรู้สึก กักเก็บน้ำตา สองคนนั้นจะรู้ไหมนะว่าเขากำลังทำให้ผู้หญิงคนนึงตองเสียใจ ต้องเจ็บ มันเจ็บมาก เจ็บจนแทบจะเดินไม่ไหว ทำไมฉันถึงได้อ่อนแออย่างนี้นะ น้ำตาของฉันค่อยๆไหลลงอาบแก้มเบาๆเหมือนกับช่วยตอกย้ำว่าฉันคนนี้มันโง่ดักดานแค่ไหน
สิ่งที่ฉันกำลังเห็น...คือภาพที่ผู้หญิงกับผู้ชายกำลังยืนหยอกล้อกัน หากมองด้วยสายตาของคนที่ไม่รู้จัก ก็คงจะคิดว่าสองคนนั้นมีความสำพันธ์กันมากกว่าคำว่าเพื่อนไปแล้ว แต่ติดที่ว่าฉันรู้ว่าเขาสองคนเป็นเพื่อนที่เพียงแค่อยู่ห้องเดียวกันเท่านั้น แล้วก็เพิ่งรู้จักกันเมื่อไม่นานมานี้...
“เฮ้ย เป็นอะไรน่ะ ฮะ ยัยมุก 0.0”
“ อ้อง ฮือๆๆๆ TT_TT”
ฉันเดินไปสวมกอดยัยอ้องด้วยความเสียใจ ยัยอ้องเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเรารู้จักกันตั้งแต่สมัยประถม ทุกเวลาที่ฉันเสียใจหรือดีใจยัยอ้องจะคอยอยู่เป็นเพื่อนฉันตลอด ยัยอ้องไม่เคยทิ้งฉัน
“คงเป็นเพราะไอ่ผู้ชายคนนั้นอีกแล้วใช่ไหม”ยัยอ้องมองหน้าฉันแล้วพูดอย่างเอือมๆพลามลูบหัวฉันเบาๆเป็นการปลอบโยนใจฉันที่ตอนนี้กำลังเตลิดเปิดหายไปกับการคิดมากเรื่องผู้ชายที่ฉันไม่ควรรักเขาตั้งแต่แรก
“ฮือๆๆๆ อ้อง ฉันเสียใจ เสียใจจริงๆ”
“ไม่เป็นไรนะ อย่างน้อยเธอก็ยังมีฉัน หยุดร้อง แล้วบอกมาว่าแกไปเห็นอะไรเข้าอีก”
ฉันเลิกกอดยัยอ้อง แล้วหันมองไปยังทางเดินออกจากอาคารเรียนหลังนี้ และนั่นทำให้ยัยอ้องหันไปมองตาม ภาพของผู้ชายกับผู้หญิงเดินไปด้วยกันอย่างสนิทสนม เป็นท่าทางที่ฉันไม่เคยได้รับจากผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงนั้น
“ไอโฟน นี่ยัยนี่อีกแล้วหรอ ไหนแกบอกว่าแกถามยัยนี่แล้วไง”
“ฉันก็ไม่รู้ ฉันไม้รู้ ฮือๆๆๆ”ฉันมองหน้ายัยอ้องแล้วก็ก้มหน้าลงร้องไห้ ฉันส่ายหัวอย่างกับคนบ้า คำคำนั้น ที่ยัยไอโฟนบอกกับฉัน มันวนอยู่ในหัว
‘ไม่หนิ ฉันไม่ได้ชอบเขานะ เธอก็รู้ว่าฉันมีพี่มอสอยู่แล้ว มีอะไรหรอ’
‘อ้อ J ไม่มีอะไร ฉันก็แค่อยากรู้น่ะ กลัวว่าจะพลาดข่าวอะไรไป’
‘มันไม่มีอะไรจริงๆ เธอสบายใจได้ J’
ทั้งๆที่ยัยนั่นบอกให้ฉันสบายใจแต่กลับมาทำแบบนี้นี่มันหมายความว่ายังไงกัน ไอโฟน เธอก็รู้หนิ ว่าฉันคิดยังไงกับคนที่เธอกำลังยืนอยู่ข้างๆตอนนี้
“เอาหละ จะยังไงก็ชั่ง ฉันว่าตอนนี้เราลงไปกันเถอะ อย่ามายืนมองอยู่อย่างนี้เลย”
ฉันลืมบอกไปว่าฉันยืนมองสองคนนั้นจากระเบียงบนอาคารเรียนชั้นสอง สองคนนั้นคงจะชวนกันเดินออกไปหน้าโรงเรียนพร้อมกันสินะ ดูจะสนิทกันเกินไปแล้ว ฉันอยากจะเดินไปถามยัยไอโฟนตรงๆให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย ฉันจะได้รีบตัดใจ แต่มาคิดดูอีกที ถ้าหมอนั้นรู้ว่าฉันชอบขึ้นมาหละก็ ฉันคงจะโดนปฏิเสธอย่างไร้เยื้อใยทันที ประวัติศาสตร์มันจะต้องเกิดซ้ำรอยเดิมหากฉันไม่คิดกลัวสิ่งนี้ ฉันอาจจะบอกเขาไปแล้วก็ได้ ฉันยังไม่อยากที่จะเจ็บขนาดนั้นหรอกนะ เพราะที่ฉันเป็นอยู่นี้ มันก็เจ็บมากพอแล้ว
“แต่ฉันยังไม่อยากลงไปตอนนี้”
“แต่แกต้องลง ฉันตัดสินใจแทนแกแล้ว”
พูดจบยัยอ้องก็ลากฉันลงบันไดไปทันที โดยที่ไม่คิดจะฟังความเห็นของผู้หญิงขี้อ่อนแอโดยมีหัวใจและน้ำตาเป็นหลักประกันความโง่เขลาของฉันคนนี้เลย หวังว่าเธอคงจะไม่ทำในสิ่งที่ฉันกลัวนะ...อ้อง T_T
“แกต้องเข้มแข็ง เข้าใจไหม” ยัยอ้องพาฉันเดินลงมาถึงชั้นล่างแล้วกำลังจะเดินผ่านสองคนนั้นที่ยังคงส่งยิ้มให้กันอย่างไม่คิดจะแคร์สื่อที่ไหนหรือหัวใจดวงน้อยๆแต่ถูกปะปนไปด้วยสีแห่งความซ้ำที่ยากยิ่งจะลบออกของฉัน
“อ้อง ฉันกลัว” ฉันยื้อให้ยัยอ้องหยุดเดิน แล้วก็มองหน้ายัยอ้องทั้งน้ำตา T_T ให้ตากเหอะ นี่ฉันจะต้องเดินไปมองสองคนนั้นใกล้ให้หัวใจที่มันแตกร้าวค่อยๆพังทลายลงตามสภาพความยับเยินที่มีอย่างงั้นหรอ
“เธอจะกลัวอะไร ฉันไม่พูดในสิ่งที่แกกลัวหรอกน่า ก็แค่เดินไป ก็คิดซะว่าเดินให้ผ่านๆ ผ่านพ้นไป แกต้องฝึกเอาไว้นะ ไม่ใช่จะมาอ่อนแออย่างนี้”
ฉันรู้ว่านี่คือทางออกที่ดีที่สุดสำหรับตอนนี้ ยัยอ้องพยายามที่จะทำให้ฉันเข้มแข็งขึ้น ซึ่งความพยายามนี้ก็ยังไม่เคยใช้ได้ผล แต่ก็ไม่แน่เพราะนี่อาจจะเป็นทางออกเดียวที่ฉันมี นั่นก็คือการเผชิญหน้ากับความจริง ความจริงที่แสนเจ็บปวด แต่เมื่อฉันอยู่กับมันจนเกิดความรู้สึกชาชินไปเสีย มันก็เป็นวิธีที่ดีสำหรับฉันไม่ใช่หรอ
เพราะฉะนั้น ฉันควรจะทำตามที่ยัยอ้องบอก
“ได้ งั้นฉันจะเดินไป ฉันจะคิดซะว่าฉันเดินผ่านคนที่ฉันไม้รู้จัก ฉันจะทำ”
ยัยอ้องมองหน้าฉันอย่างชื่นชม “งั้นเราไปกัน”
ฉันเช็ดน้ำตาที่อยู่บนแก้มแล้วเดินต่อไปพร้อมกับยัยอ้อง ขอบใจนะ ขอบใจเธอจริงๆ ที่ทำให้ฉันคิดได้ และพยายามทำให้ฉันเข้มแข็งขึ้น ทั้งที่มันไม่เคยทำให้ฉันเข้มแข็งขึ้นอย่างที่ใจดวงนี้มันต้องการเลยสักครั้ง ให้ตายเหอะ!
“อ้าว มุกหมี นั่นเธอเป็นอะไรหนะ”
เมื่อยัยไอโฟนเห็นสีหน้าของฉันที่เหมือนคนกำลังร้องไห้มาเมื่อกี้ ก็ทำท่าตกใจแล้วเดินเข้ามาหาฉันด้วยสีหน้าท่าทางเป็นห่วงเป็นใย ฉันมองหน้ายัยไอโฟนแล้วก็ค่อยๆหันไปมองหน้าของอีกคนที่ทำท่าจะเดินตามยัยไอโฟนมาทางฉันเหมือนกัน
“ฉันไม่ได้เป็นอะไร”
ฉันบอกปัดยัยโฟนไป แล้วก็หันไปมองคนข้างหลังยัยนั้นอีกครั้ง เขากำลังใกล้เข้ามาแล้ว ฉันกลัวจัง กลัวว่าจะทนไม่ไหว ฉันจะไม่ไหวแล้ว น้ำตามันมาจ่ออยู่ที่เบ้าแล้ว ฉันจะทำยังไงดี ฉันบีบมือยัยอ้องแน่น แล้วสงสัยยัยอ้องก็คงจะรับรู้แล้วว่าฉันต้องการอะไร
“ ไม่มีอะไรหรอกโฟน ยัยมุกก็แค่เสียใจเรื่องส่วนตัวหนะ ”
...เขาใกล้เข้ามาแล้ว เขาต้องถามฉันแน่ แล้วพอถึงตอนนั้นน้ำตาก็คงจะเอ่อล้นออกมาเหมือนเขื่อนแตก แล้วก็จะทำให้เรื่องมันไม่จบ!
“ ...ฉันกลับก่อนนะ ”
ฉันตัดสินใจเดินออกมาจากตรงนั้นอย่างเสียมารยาท ใครจะมองฉันยังไงฉันไม่สนใจทั้งนั้น ตอนนี้ขอแค่ฉันหลุดออกมาจากตรงนั้นได้ก็พอ
“ อ้าว! ยัยมุก ”
ถึงจะได้ยินยัยอ้องเรียก ฉันก็ไม่สนใจที่จะหยุดเดิน ฉันเดินช้าอยู่แล้ว แล้วฟังจากเสียง ยัยนั่นกำลังวิ่ง ถ้าตามไม่ทันฉันก็ไม่รู้จะว่ายังไง ฉันขอโทษนะ ตอนนี้ฉันกำลังเสียใจ ถ้าฉันไม่เดินออกมาฉันคงจะต้องเป็นบ้าตายแน่ๆ
7:30 P.M.
ฉันนั่นมองรูปถ่ายที่มีฉันยืนคู่กับผู้ชายคนนั้น ฉันเอามันใส่กรอบเป็นอย่างดี ตั้งไว้ที่ตรงโต๊ะทำงานที่บ้าน เพื่อที่ฉันจะได้มองมันแล้วเป็นกำลังใจให้ฉันทำงานต่อไป ฉันอยากจะบอกว่าผู้ชายในรูปนี้เรียนเก่งมาก เกรดเขาดีจนฉันคิดว่าฉันคนนี้ไม่คู่ควร และฉันก็พยายามตั้งใจเรียนให้มันได้เท่าเขา ยิ่งสูงกว่าเขาได้ยิ่งดี และมันก็น่าเหลือเชื่อมาก เกรดฉันพุ่งสูงมากจนเป็นอันดับสามของห้องแทนที่เขา ส่วนเขาเกรดตก ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร
ฉันกับเขาเคยมีเรื่องผิดใจกัน จนทำให้ระหว่างเรามีความสัมพันธ์ลดลงเหลือแค่คนรู้จัก ไม่ใช่สิ เราแทบจะเป็นศัตรูกันเลยด้วยซ้ำ ฉันกับเขาแทบไม่ได้คุยกันเลยหนึ่งปี และฉันคงจะไม่มานั่งเจ็บอยู่ทุกวันแบบนี้ ถ้าฉันไม่ได้รักเขาก่อนหน้านั้น ใช่ ฉันรักเขาตั้งแต่ปีแรกที่เรารู้จักกัน ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน รู้แต่ว่าฉันชอบเขา แต่ตอนนั้นฉันยังไม่ค่อยแน่ใจ ว่ามันเป็นความรักหรือความหลงกันแน่ ฉันเก็บความรู้สึกนี้มาประมาณหนึ่งปี โดยไม่ได้บอกใครแม้กระทั้งยัยอ้อง เพื่อนสนิทของฉัน จนมาวันหนึ่งฉันมั่นใจแล้วว่าความจริงแล้วฉันรักหมอนั้นมาก วันนั้นฉันพยายามเข้าหาเขา เพื่อที่จะบอกความในใจ จนมาถึงตอนเย็นบังเอิญฉันได้ทำรายงานคู่กับเขา มันเป็นงานที่ครูเพิ่งจะสั่งในวันนั้นพอดี และบังเอิญเลขที่ของฉันก็ได้คู่กับเลขที่ของเขาด้วย วันนั้นเราจึงอยู่คุยงานกันที่โรงเรียน
‘เรื่องงานเดี๋ยวฉันทำก็ได้นะ’ หลังจากที่ฉันนั่งคิดว่าจะเริ่มพูดกับเขายังไงดี เขาก็ชิงพูดขึ้นก่อน ถึงแม้ฉันจะอยู่ห้องเดียวกันกับเขา แต่ฉันก็ไม่ได้สนิทกับเขาเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นนะ ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาฉันได้พูดกับเขาถึงสามประโยครึเปล่าก็ไม่รู้ ก็ฉันตีสนิทใครไม่เป็นนี่ แล้วอีกอย่างฉันก็เป็นคนขี้อายมากด้วย พอมาถึงตอนนี้มันก็เลยยากหน่อยที่จะหาคำพูดดีๆได้ เพราะความรู้สึกของฉันที่มีต่อเขามันไม่ใช่ที่จะมาพูดกันง่ายๆเลย คงเป็นเพราะฉันใส่ใจกับคำพูดทุกคำที่จะพูดออกไป เห็นไหมล่ะ อย่างนี้ไงฉันถึงพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าฉันรักเขา =///=
‘ไม่เอาหรอก ให้นายทำคนเดียวก็น่าเกลียดแย่เลยสิ’
‘ไม่เป็นไร ปกติฉันก็เป็นคนทำอยู่แล้ว เอาเป็นว่าเธอจะส่งวันไหน ฉันจะได้ไปทำมา’
ทำไมเขาถึงได้แสนดีอย่างนี้นะ =///=
‘ก็แล้วแต่นายก็แล้วกัน’
‘ครับ’
น่ารักได้อีก คำพูดของเขาทำให้ฉันแทบ กรี๊ดดด!!!
“0///0”
“...”
‘ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันกลับล่ะนะ’
‘...’
เมื่อฉันเห็นว่าเขาไม่พูดอะไร ฉันก็เลยหันหลังแล้วเดินออกมา วันนี้ไม่ได้บอกไม่เป็นไรหรอก จะว่าไปแล้วฉันว่าดูๆใจกันไปก่อนก็ได้ อีกอย่าง ถ้าฉันบอกเขาไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นก็ยังไม่รู้เลย
‘เดี๋ยวสิ’
ฉันหยุดเดินแต่ก็ไม่ได้หันกลับไป คิดดูแล้วฉากนี้เหมือนในหนังเลยอ่ะ เขินจัง =///=!!
‘จะรังเกียจไหม ถ้าฉันจะไปส่ง’
‘O////O’
เมื่อกี้ ขะ... เขาบอกว่า เขาจะไปส่งฉันงั้นหรอ ฉันจะทำยังไงดี ฉันควรจะปฏิเสธหรือควรจะรับน้ำใจจากเขาอย่างไม่คิดเกรงใจดีนะ เอ๊ะ! แต่เมื่อกี้เขาถามว่าจะรังเกียจไหม ก็แปรว่าถ้าฉันปฏิเสธก็เท่ากับว่าฉันรังเกียจเขางั้นสิ
‘ว่ายังไง เธอนี่ทำไมตัดสินใจนานจัง มุกหมี’
ฉันถึงกับสะดุ้งเฮือก
ผลงานอื่นๆ ของ ผีปอบน้อย ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ผีปอบน้อย
ความคิดเห็น